ซากูระบานบนภูทับเบิก

          หลายท่านคงเคยได้สัมผัสกับดอกพญาเสือโคร่ง หรือที่เรียกกันว่า ซากูระเมืองไทย บนดอยดังๆ หลายแห่งในบ้านเรา เช่นดอยอ่างขาง ดอยแม่สลอง ดอยขุนแม่ยะ หรือดอยขุนช่างเคี่ยน ซึ่งปกติดอกซากูระเมืองไทย จะบานในช่วงที่อากาศเย็นจัดติดต่อกัน คือปลายเดือนธันวาคม ถึงต้นเดือนมกราคมของทุกปี แต่ในปีนี้อากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง ตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน จนล่วงเลยกลางเดือนธันวาคม ก็ยังไม่คลายความหนาวลง ทำให้ซากูระเมืองไทย ออกดอกสีชมพู บานสะพรั่ง อวดความสวยงามหวานเจี๋ยบ ให้นักท่องเที่ยว ก่อนปีอื่นๆ                                   

              หากไม่ต้องการไปไกลถึง ดอยอ่างขาง หรือดอยขุนแม่ยะ วันนี้สามารถสัมผัสความสวยงามของซากูระ บนภูทับเบิกได้แล้ว แม้จะมีจำนวนไม่มากเท่ากับดอยในจังหวัดเชียงใหม่ แต่ก็ทำให้ได้เห็นบรรยากาศ และธรรมชาติสีชมพูหวานแหวว ของพญาเสือโคร่งได้ง่ายๆ พร้อมสัมผัสบรรยากาศหนาวเหน็บ อุณหภูมิ 2-8 องศา บนภูเขากะหล่ำปลีที่กว้างใหญ่  

                                                                            " ซากูระ บนภูทับเบิก "


" ซากูระ บนภูทับเบิก " ไม่ได้มีจำนวนมากนัก ไม่ได้เป็นจุดขาย ถือว่าเป็นของแถมสำหรับการเที่ยวบนภูทับเบิก ส่วนใหญ่ขึ้นเองตามธรรมชาติ แซมอยู่ในทิวป่า สามารถมองเห็นได้จากจุดชมวิว แต่ส่วนที่สัมผัสได้อย่างใกล้ชิดจะมีจำนวนไม่มากนัก อยู่บริเวณเส้นทางเข้าไปยังหมู่บ้านม้ง บ้านทับเบิก ซึ่งหากต้องการชมความงาม อาจต้องจอดรถลุยไร่กะหล่ำ เข้าไปถ่ายรูป ถือเป็นอีก 1 กิจกรรมที่น่าสนใจ ระหว่างการเข้าไปเยี่ยมเยือนน้องๆ ชาวเขาในหมู่บ้านทับเบิก

                                                                               

ช่วงเวลาเบ่งบานของดอกนางพญาเสือโคร่งได้ความว่า น่าจะบานเต็มที่ราวๆ ปลายเดือน ม.ค.-ต้นเดือน ก.พ.ช่วงฤดูหนาวเดือนธันวคม-ต้นเดือนกุมภาพันธ์ อุณภูมิที่ 0 องศา จนถึงช่วงบ่าย 2 โมงจะอยู่ที่ 4 องศา และในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ช่วงเช้าจะมีอุณภูมิประมาณ 8-10 องศา 

ช่วงบ่าย 15-19 องศาในเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม ต้นนางพญาเสือโคร่ง เริ่มผลิใบเหลือแต่ดอกสีชมพู อากาศยังหนาวเย็นอยู่มากนักท่องเที่ยวท่านใดมีโปรแกรมเที่ยวภูทับเบิกในช่วงปีใหม่อยู่แล้ว อาจได้ชมความงามนี้ด้วย 
 ควรตรวจสอบข้อมูลก่อนการเดินทางล่วงหน้า 

 " ซากูระเมืองไทย หรือดอกพญาเสือโคร่งตัวเมีย สีชมพู "

                                      " ซากูระเมืองไทย หรือดอกพญาเสือโคร่งตัวเมีย สีชมพู "

สุดขอบฟ้า สุดยอดทะเลหมอก ที่จุดสูงสุดภูทับเบิก

    ภูทับเบิก ตั้งอยู่ที่ ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของจ.เพชรบูรณ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวแหล่งใหม่ที่น่าสนใจเพราะบนภูทับเบิกมีอากาศหนาว และมีหมอกสีขาวที่สวยงามเยอะเต็มไปหมดจนบางครั้งเราสามารถเอื้อมมือไปจับได้เลย และยังเป็นแหล่งที่ปลูกกระหล่ำปีที่ใหญ่และเยอะอีกที่หนึ่งเลยทีเดียว และก็เป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร ห่างจากอำเภอหล่มเก่า 40 กิโลเมตร ตามเส้นทางจากหล่มเก่าไปภูหินร่องกล้า หรือห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 90 กิโลเมตร

ภูทับเบิก มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา มีอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูง จึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล โดยช่วงเช้าจะมองเห็นกลุ่มเมฆ และทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์  เมื่อปี พ.ศ.2548 นาย ดิเรก ถึงฝั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ได้มาเปิดภูทับเบิกเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่ง ใหม่ของจังหวัดเพชรบูรณ์ จากนั้นมา ภูทับเบิก จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิมยอม ของนักท่องเที่ยวที่ชอบเที่ยวแนวธรรรมชาติ

ภูทับเบิก ยังเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ได้อพยพมาอาศัยอยู่ที่บ้านทับเบิก หมู่ที่ 14 และหมู่ที่ 16 โดยอยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ ประกอบด้วยอาชีพทำการเกษตรแบบขั้นบันไดตามเชิงเขา ในช่วงปลายฝนต้นหนาวจะพบเห็นไร่กะหล่ำปลีอยู่สองข้างถนนสู่ทับเบิกสวยงาม ในราวเดือนธันวาคม-มกราคม จะมี ดอกซากุระ หรือ นางพญาเสือโครง สีชมพูบานสะพรั่งไปทั้งภูเขา 

ภูทับเบิก มีภูมิประเทศที่เป็นธรรมชาติที่สวยงามด้วยทะเลหมอกภูเขา ป่าไม้ สายหมอก ไอหนาวและอากาศบริสุทธิ์ และยังมีอากาศเย็นสบายถึงหนาวตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูง จึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกลและทะเลหมอกที่มีให้ดูตลอดปี

ภูทับเบิก เป็น 1 ใน UNSEEN THAILAND ด้วยภูมิประเทศที่สวยงาม ธรรมาชาติแบบทะเล ภูเขาอากาศบริสุทธิ์ และเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูง จึงสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างกว้างไกล ในตอนเช้าจะมองเห็นกลุ่มเมฆ และทะเลหมอกตัดกับเทือกเขาเพชรบูรณ์ นอกจากนี้ภูทับเบิกยังเป็นสถาที่ที่สำคัญของจังหวัดเพชรบูรณ์ คือ เป็นจุดที่ใช้รับน้ำฟ้ากลางหาว (เมื่อวันที่ 9 กัยยายน 2542) เพื่อนำไปร่วมเป็นน้ำเพชรน้อมเกล้า ถวายเป็นน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ในพิธีพระราชมงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2542

ภูทับเบิก มีทั้งทะเลหมอกและสายหมอก ไอหนาวและอากาศบริสุทธิ์ และยังมีอากาศเย็นสบายถึงหนาวตลอดปี ยังเป็นแห่งที่สามารถดูดาวบนดินที่สวยงามมากด้วย  ถ้านักท่องเที่ยวท่านใดที่ชื้นชอบท่องเที่ยวแนวธรรมชาติที่หนาวและที่สูง ขอฝากที่ ภูทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ แหล่งท่องเที่ยวแหล่งใหม่นี้ไว้ด้วยนะค่ะ รับรองถ้าท่านมาเที่ยวแล้ว จะต้องอยากกลับมาเที่ยวอีกแน่

      นอกจากนี้ภูทับเบิกยังเป็น "จุดชมทะเลหมอก" ที่สวยงามและอลังการอีกแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะหากมาในช่วงหน้าฝนประมาณ เดือนก.ค.- ต.ค.มักจะพบเห็นทะเลหมอกได้ง่ายกว่าหน้าหนาว ภูทับเบิกนับเป็นจุดสูงสุดของเพชรบูรณ์ แปลกตรงที่สามรถมองเห็นขุนเขารอบด้านได้อย่างสวยงาม  ส่วนในยามเช้าด้วยร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัย และเป็นเทือกเขาสูง ภูทับเบิกในตอนเช้าจึงมองเห็นทะเลหมอกตัดกับเทือกเขาเพชรบูรณ์ได้อย่างสวยงาม

ทะเลหมอกแสนสวย.. ภูทับเบิก

            จุดเด่นที่สุดของภูทับเบิก คือ การชมวิวได้รอบทิศ 360 องศา เหนือบรรดาเมฆหมอกที่ลอยอยู่รอบๆ และมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี เนื่องจากเป็นยอดเขาสูงที่สุดของเพชรบูรณ์ และปลูกแต่กะหล่ำปลีทั่วทั้งหุบเขา ทำให้ไม่มีต้นไม้ใหญ่มาบดบังทัศนียภาพ และกระแสลมบน ขณะที่ในบางเช้าก็มีทะลหมอกขนาดใหญ่ กินบริเวณกว้างทางด้านทิศตะวันออกที่ติดกับ อำเภอหล่มเก่า ถือเป็นทะเลหมอกที่ใกล้กับผู้ชมมากที่สุด เพราะหมอกทั้งหมดมาออกันอยู่ด้านข้างจุดกางเต็นท์นั่นเอง

                                                              ภูทับเบิก เพชรบูรณ์

                                                                   ภูทับเบิก เพชรบูรณ์

                                                     พระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าที่ภูทับเบิกเพชรบูรณ์

 

ภูทับเบิก เพชรบูรณ์

หอดูดาวและที่วัดอุณหภูมิภูทับเบิก

หอดูดาวและที่วัดอุณหภูมิภูทับเบิก 

หอดูดาวและที่วัดอุณหภูมิภูทับเบิก

                                    จะมี 3 สถานะครับ

                                    สถานะที่  1 บอกถึงวันที่

                                    สถานะที่ 2 บอกถึงเวลา

                                    สถานะที่3 บอกถึงอุณหภูมิ

แผนที่่ภูทับเบิก

               การเดินทางมาภูทับเบิกใช้ทางหลวงหมายเลข 21 ถ้านับจากตัวเมืองเพชรบูรณ์ไปถึงภูทับเบิกก็ประมาณ 70 กว่ากิโเมตร พอใกล้ถึงหล่มสักจะเป็นทางหลวงหมายเลข 21 เส้นเลี่ยงเมื่อง อำเภอหล่มสัก เลี้ยวซ้ายจะผ่านหน้าโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัยเพชรบูรณ์ ขับไปตางเส้นเลี่ยงเมื่องไปประมาณ 4 กิโลเมตรพบกับ 4 แยก ตัดกับทางหลวงหมายเลข 12 เลี้ยวซ้ายตามทางหลวงหมายเลข 12 ไปอีก 1 กิโลเมตรโดยประมาณ พบกับ 4 แยก ซึ่งตัดกันระหว่างทางหลวงหมายเลข 12 กับ 2372 เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2372 ไปอีก ประมาณ 14 กิโลเมตร โดยจะผ่านหมู่บ้าน น้ำก้อ และห้วยแล้ง แล้วไปพบกับ 3 แยก ระหว่างทางหลวงหมายเลข 2372 กับ 2331 เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนน 2331 ขับไปเรื่อยๆครับอีก ประมาณ 24 กิโลเมตรถึงภูทับเบิกครับ

แผนที่ ภูทับเิบิก